นางสาวบุหงา เสมจิตร์

นางสาวบุหงา   เสมจิตร์
นางสาวบุหงา เสมจิตร์ เลขที่ 18 หมู่ที่ 7 ป.บัณฑิตรุ่นที่ 13

สุขสันต์วันวาเลนไทน์

วันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554

อารมณ์ขันสลายรัก

ความรัก

อารมณ์ขันสลายรัก (Lisa)


          ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาชาวแคนาดา รอด มาร์ติน ค้นพบว่า ความรักของหนุ่มสาวที่มีอารมณ์ขันนั้น ไม่ยั่งยืน เป็นไปได้หรือที่คนชอบพูดเล่น ตลกโปกฮาไม่สามารถมัดใจคนรักไว้ได้นาน

          เขากล่าวว่า ความรักของผู้มีอารมณ์ขันส่วนมากมีอายุได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยได้ทดลองทำแบบสอบถามนักศึกษาหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัยได้ผลว่า ผู้ที่ชอบพูดตลก สนุกสนาน ดูมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม แต่ก็มักเป็นคนที่มีความรักไม่ยั่งยืน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะผู้มีอารมณ์ขัน มักมีผู้คนรุมล้อมมากจึงไม่ใส่ใจ ที่จะผูกมัดใครไว้กับคน

          หรืออาจเป็นเพราะว่าพวกเขาขาดความรู้สึกว่า เมื่อไหร่ที่พวกเขาควรจริงจังกับคู่รัก และชอบที่จะพูดเล่นให้เป็นเรื่องขำขันอยู่เสมอ ดังนั้น ผู้ที่มีอารมณ์ขันควรแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง คือต้องใส่ใจกับความรู้สึกของผู้อื่นว่าการพูดเล่นสนุกของพวกเขา อาจทำให้ผู้อื่นสะเทือนใจและเจ็บปวดได้

          นอกจากนี้ พวกเขายังต้องเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักด้วยว่าเรื่องไหน ควรเป็นเรื่องที่ต้องพูดกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย วันตรุษจีน 2554

ตรุษจีน ถือเทศกาลที่สำคัญที่สุดของ ชาวจีน เพราะถือว่า วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน ดังนั้น ชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับ เทศกาลตรุษจีน เป็นอย่างยิ่ง ส่วนการกำหนด วันตรุษจีน นั้น ตามประเพณีเทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้ายตามปฏิทินจันทรคติของจีน และถือว่าคืนวันที่ 30 เดือน 12 เป็นวันส่งท้ายปีเก่า ส่วนวันที่ 1 เดือน 1 คือวันชิวอิก หมายถึงวันแรกของฤดูใบไม้ผลิ

          อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ วันตรุษจีน 2554 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ ซึ่งใน วันตรุษจีน 2554 คนไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศ จะจัดพิธีเฉลิมฉลองเพื่อเป็นการต้อนรับวันปีใหม่อย่างยิ่งใหญ่ คึกครื้น และสนุกสนาน แต่จะมีที่ไหน อย่างไรนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไปสำรวจกัน พร้อมแล้วลุยเลย...

วันตรุษจีน วันตรุษจีน 2554

วันตรุษจีน วันตรุษจีน 2554

ตรุษจีนกรุงเทพมหานคร

          • ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กำหนดจัดงาน 1 กุมภาพันธ์ 2554 โดยมีกิจกรรมการแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 36 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สาธารณรัฐประชาชนจีน และการแสดง 2 รอบ เวลา 15.00 น. และ 19.00 น. (จำหน่ายบัตร)

          • ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กำหนดจัดงาน 3 กุมภาพันธ์ 2554  เวลา 13.00 น. โดยมีกิจกรรม พิธีกล่าวคำอวยพรเนื่องในวันตรุษจีน ปี 2554 ระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐประชาชนจีน การแสดงวัฒนธรรมจีน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน

          • ถนนเยาวราช กำหนดจัดงาน 3 กุมภาพันธ์ 2554  เวลา 16.00 น. โดยมีกิจกรรม การแสดงหน้าพระที่นั่ง ณ วงเวียนโอเดียน ถนนเยาวราช การแสดงรอบพิเศษในงานเทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์เยาวราช ขบวนแห่ประเพณีอันยิ่งใหญ่อลังการ การออกร้านจำหน่ายอาหาร ชมการแสดงและการละเล่นต่าง ๆ

วันตรุษจีน วันตรุษจีน 2554 

ไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่

          การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ชวนร่วมงาน "ไชน่าทาวน์เมืองเชียงใหม่" ระหว่างวันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ 2554

          กิจกรรมเด่น

          1. กระเช้าส้มมงคลยักษ์
          2.  การแสดงกังฟูจาก มณฑลกวางสี ประเทศจีน สนับสนุนโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
          3.  การแสดงมังกรไฟ และสิงห์โตไฟ

          กิจกรรมหลัก

          1. ขบวนพาเหรดฉลองเทศกาลตรุษจีน ในวันที่ 4  กุมภาพันธ์  2554 เวลา 09.00 น.

          • ขบวนมังกรทอง
          • ขบวนเชิดสิงโตทอง
          • ขบวนเทพเจ้าจีน
          • ขบวนดนตรีจีน
          • ขบวนแขกรับเชิญ
          • ขบวนพาเหรดฉลองเทศกาลตรุษจีนจากสมาคม ชมรม มูลนิธิ ชาวไทยเชื้อสายจีน
          • กระเช้าส้มมงคลยักษ์
          • การจำหน่ายขนมเปี๊ยะการกุศล

          2. กิจกรรมบนเวที ตั้งแต่วันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2554

          • การแสดงศิลปวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดเชียงใหม่
          • การขับร้องเพลงจีน และการแสดงดนตรีจีนจากสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ และชมรมรักเสียงเพลงเชียงใหม่
          • การแสดงการออกกำลังกายจีน
          • การเสวนาดวงโหราศาสตร์ประจำปี

          3. กิจกรรมบนถนน แบ่งเป็น 2 โซน ตั้งแต่วันที่ 4-6 กุมภาพันธ์ 2554

          • นิทรรศการ ศิลปวัฒนธรรม ของชาวไทยเชื้อสายจีน จากสมาคม ชมรม มูลนิธิ
          • การออกร้านอาหารจีน ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงใหม่

          4. การแสดงกังฟู จาก มณฑลกวางสี ประเทศจีน

          5. การประกวด หนูน้อยคิดดี้ ตี๋ - หมวย อายุระหว่าง 4-6 ปี และ ตี๋ - หมวย สวยเก่ง 7-9 ปี

          6. การประกวด MISS CHIANGMAI CHINA TOWN

แอร์โฮสเตส เพศที่ 3 ...คุณคิดอย่างไร



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

         กลายเป็นประเด็นฮือฮาในสังคมไม่ใช่เล่น เมื่อสายการบินสัญชาติน้องใหม่ บริษัท พี.ซี.แอร์ จำกัด เปิดตัวแรง ด้วยการเปิดรับสมัครสาวประเภทสองที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว สามารถสมัครเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินนี้ได้ ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการสายการบินนานาชาติ เพราะยังไม่เคยมีสายการบินไหนที่มีแอร์โฮสเตสเป็นสาวประเภทสองมาก่อน

         ประธานกรรมการบริหาร พี.ซี.แอร์ เผยว่า จะเปิดให้บริการโดยสารภายในเดือนมีนาคม 2554 และจะรับสมัครสาวประเภทสองเป็นแอร์โฮสเตสทั้งสิ้น 3 คน หลังจากนั้นต้องไปฝึกอบรมและทดสอบการเป็นลูกเรือ ตามหลักเกณฑ์มาตรฐานของกรมการบินพลเรือน ทั้งด้านความพร้อมทางสุขภาพร่างกาย และความรู้ด้านกฎเกณฑ์ความปลอดภัยบนเครื่องบิน

         แน่นอนล่ะ... วงการสาวประเภทสองต่างรู้สึกยินดีกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก เพราะสาว(เทียม)สวยหลายคนใฝ่ฝันที่จะเป็นนางฟ้าบนเครื่องบินเช่นผู้หญิงทั่วไป

         อย่างไรก็ตาม ยังมีคนบางกลุ่มที่ไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะ คิดอย่างไรกันบ้างเอ่ย ?




วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ปีใหม่... เริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ กันบ้าง




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          สวัสดีปีใหม่ 2554 ...คงยังไม่สายเกินกว่าจะเอ่ยคำนี้ และส่งความปรารถนาดีถึงกันในช่วงเดือนแรกของปี ซึ่งในปีกระต่ายนี้ ใครหลายคนตั้งใจจะทำสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้ชีวิตพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และพบเจอแต่สิ่งที่ดี ๆ สมกับคำอวยพรปีใหม่ที่ได้รับจากญาติผู้ใหญ่ รวมทั้งเพื่อนสนิทมิตรสหาย

          ทั้งนี้ อาจเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการยิ้ม ...รอยยิ้มอย่างจริงใจไม่เคยสร้างศัตรูหรือให้ผลร้ายกับใครทั้งสิ้น ทั้งยังช่วยผูกมิตร และทำให้เกิดเรื่องราวดี ๆ มากมาย เพียงแค่ "ยิ้ม" ในสถานการณ์ที่เหมาะสม เพราะหากคุณเล่นแจกยิ้มอย่างไม่จำกัดล่ะก็ อาจจะถูกมองว่าไม่ปกติก็ได้นะจ๊ะ

          แต่สำหรับหลาย ๆ คน ก็มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ปีนี้ตั้งใจจะทำอะไรกันบ้าง ขณะที่บางคนก็ถือฤกษ์ดีวันที่ 1 เดือน 1 ปี (20)11 เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ สิ่งดี ๆ หรือสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนแล้ว

          เอ...แล้วคุณล่ะคะ เริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ บ้างหรือยังเอ่ย

เพื่อน ๆ ใช้เงินเฉลี่ยวันละเท่าไหร่กันบ้าง ?

เงินเฉลี่ยวันละเท่าไหร่กันบ้าง ?



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม


          คนจำนวนมากประสบภาวะชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เงินเกินงบกันอย่างแก้ไม่ตก ซึ่งหลาย ๆ คนใช่ว่าจะไม่ประหยัด แต่พอรู้ตัวอีกที เงินหนีหายจากกระเป๋าไปหมดแล้ว

          โดยในหนึ่งวัน บางคนหมดเงินหลัก ๆ ไปกับการกิน ขณะที่บางคนเรียน หรือทำงานไกลบ้าน จึงจำเป็นต้องเสียเงินกับค่าเดินทางมากกว่าค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ และอีกจำนวนไม่น้อย หมดเงินไปแบบไม่รู้ตัวกับของจุกจิกเล็ก ๆ น้อย ๆ

ว่าแล้ว...วันนี้ลองมาสำรวจการใช้เงินประจำวันกันดูดีกว่าว่า ในแต่ละวันเราใช้เงินตกวันละเท่าไหร่ และหมดไปกับค่าใช้จ่ายอะไรกันบ้าง

ดูแลผิวหน้าให้สวยใส ด้วยพรีเมียร์-ซอฟ

          Premium Soft Foam pH 5.5
         ผิวสวย หน้าใส ใคร ๆ ก็อยากมี โดยเฉพาะคุณสาว ๆ แล้ว เรื่องของความสวยความงามเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้จริง ๆ และหากว่าสาวคนไหนมีผิวหน้าที่สดใส นุ่ม ชุ่มชื่น ไร้สิว ก็ถือว่ามีชัย (ความสวย) ไปกว่าครึ่ง

          ถ้างั้น... วันนี้เราขอเอาใจสาว ๆ และหนุ่ม ๆ ที่อยากมีผิวหน้าสวยใส ไร้สิวกันหน่อยดีกว่า ด้วยการพาไปรู้จักกับ Premier-Sof โฟมล้างหน้าพรีเมียร์-ซอฟ โฟมหนึ่งเดียวที่มีค่า pH 5.5 รักษาฟิล์มคุ้มครองผิว (Hydrolipid Film) เพื่อคงสมดุลสุขภาพผิวให้แข็งแรงตามธรรมชาติ ผิวไม่แห้งหรือมันเกินไป ไม่แพ้ระคายเคือง หรือเป็นสิวได้ง่ายอีกต่อไป


Premium Soft Foam pH 5.5

        ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของสารชำระล้าง Apple Amino Protein ที่ชำระล้างสิ่งสกปรกได้สะอาดหมดจด แม้เครื่องสำอางบนใบหน้า โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางเช็ดออกก่อน พร้อมลดขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า ประหยัดเวลาแบบสุด ๆ และไม่ทำลายมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติที่ผิวหน้า ผิวจึงสะอาด และชุ่มชื่นหลังการล้างหน้า และยังอ่อนโยนต่อผิว ไม่แสบตา พร้อมคืนความชุ่มชื่นแก่ใบหน้า ที่อาจสูญเสียไประหว่างล้างด้วย Natural Moisturizing Factors (NMF) หมดกังวลเรื่องผิวแห้งตึงหลังล้างหน้าไปได้เลย!!

          ...เพราะการล้างหน้า เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดของการบำรุงผิว ที่คุณอาจจะไม่รู้... ว่าแล้วก็ไปหาโฟมล้างหน้าพรีเมียร์-ซอฟ pH 5.5 มาใช้กันดีกว่า...




5 ประโยชน์จากฟองน้ำแต่งหน้า

ฟองน้ำแต่งหน้า
แต่งหน้า



5 ประโยชน์จากฟองน้ำแต่งหน้า (Lisa)

              สาว ๆ หลายคนอาจไม่เคยมีอุปกรณ์แต่งหน้าชนิดนี้ พกอยู่ในกระเป๋าเครื่องสำอางเลย

              แต่คุณรู้มั้ยว่า ช่างแต่งหน้าแทบจะร้อยทั้งร้อย ต่างต้องพึ่งฟองน้ำสำหรับใช้แต่งหน้านี้กันทั้งนั้น เพราะเราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ตั้งหลายอย่าง และนี่คือตัวอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ
           ใช้ทามอยสเจอไรเซอร์ สาว ๆ บางคน อาจใช้มอยสเจอไรเซอร์ในปริมาณที่มากเกินไป ส่งผลผิวหน้าดูมันเยิ้มจนเครื่องสำอางไม่สามารถเกาะติดได้อย่างยาวนานอย่างที่ควรจะเป็น คุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ด้วยการหยดมอยสเจอไรเซอร์ลงบนฟองน้ำสองสามหยด แล้วนำไปลูบไล้บนใบหน้าให้ทั่ว

           ใช้ซับแป้งส่วนเกินออก ถ้าคุณไม่อยากให้เห็นเนื้อแป้งติดอยู่บนผิวมากเกินไป หลังจากทาแป้งฝุ่นเสร็จแล้ว ก็ใช้ฟองน้ำค่อย ๆ ซับแป้งฝุ่นส่วนเกินออก

           ใช้เกลี่ยอายแชโดว์ ถ้าคุณไม่อยากให้สีอายแชโดว์ดูเป็นปื้นแข็ง ๆ ก็ใช้ฟองน้ำเกลี่ยขอบอายแชโดว์ให้ดูจางลงได้

           ใช้แต่งตาแบบสโม้กกี้อาย โดยหลังจากใช้ดินสอเขียนขอบตาเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้ฟองน้ำลูบเส้นอายไลเนอร์นั้นให้ค่อย ๆ ดูจางลงจนถึงรอยพับบนเปลือกตา

           ใช้ทำความสะอาดข้อผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่า อายไลเนอร์ หรือแม้แต่ลิปสติก โดยใช้ขอบฟองน้ำค่อย ๆ ลูบเอารอยผิดพลาดนั้นออก


สีผมที่เหมาะกับทรง

ทรงผม



สีผมที่เหมาะกับทรง (Hair)

               มาดูกันว่าสีผมแบบไหนเหมาะกับผมทรงไหน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาแบบน่าทึ่ง
        I’ve got a ผมคร็อปสั้น
       อะไรที่เหมาะและทำไม

               การลองเปลี่ยนสีผมจากเฉดหนึ่งไปอีกเฉดหนึ่ง สำหรับผมสั้นง่ายกว่าผมยาวมาก ผมครอปสั้นเหมาะกับสีแรง ๆ ทุกเฉด โดยเฉพาะเฉดที่สะท้อนแสงไฟอย่าง สีแดงทองแดง และคาราเมล

       สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

               ทำไฮไลท์เยอะ ๆ เพราะจากผมสั้นที่ดูเก๋จะทำให้ดูเชยไปเลย

      ทำสีเลย

               "บอกให้ช่างทำสีผมแบบสีเดียวทั้งศีรษะ" มาร์กลีสัน ผู้สร้างสรรค์ทรงผมสวย ๆ ที่เห็นในคอลัมน์นี้ แนะนำ เริ่มจากการใช้สีแบบกึ่งถาวรก่อน ถ้าชอบก็ค่อยทำสีแบบถาวรที่สีจะค่อย ๆ ไล่ลงไปเรื่อย ๆ เวลาที่ผมยาว

       หมายเหตุ!

               นัดช่างทำสีผมทุก ๆ 6 สัปดาห์ เพื่อปิดผมขาวบริเวณโคนผม และเติมความสดใสให้เฉดสี

        I’ve got a ผมบ๊อบคลาสสิกตลอดกาล

       อะไรที่เหมาะและทำไม

               สีเข้มเหมาะกับผมบ๊อบ เพราะจะทำให้ผมดูเงางาม ถ้าคุณไว้บ๊อบยาว การทำไฮไลท์ จะช่วยทำให้ดูนุ่มตาขึ้น

       สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

               อย่าทำหลายโทนสี ผมบ๊อบ เป็นทรงที่โชว์เทคนิคการตัดของทรง ฉะนั้น อย่าให้สีผมมาบดบังทรงผมหมด

      ทำสีเลย

               ให้ช่างทำสีแบบ Placement colour ที่ช่างจะออกแบบสีรอบ ๆ สีหน้า และใช้สีรอบ ๆ สีหน้า และใช้สีที่สว่างรอบ ๆ ผมหน้าม้า

       หมายเหตุ!

               การทำสีผมแบบนี้จะดูแลง่าย เพราะโคนผมจะถูกซ่อนอยู่ข้างใต้เลเยอร์ค่อยนัดช่างทำสีเพิ่ม เมื่อคุณรู้สึกว่าสีผมคุณเริ่มไม่สดใสแล้ว

        I’ve got a ผมยาว

       อะไรที่เหมาะและทำไม

               การทำไฮไลท์แบบหลายโทน ร่วมกับทำโลว์ไลท์ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาตอนเสร็จแล้ว ออกมาดูเป็นธรรมชาติ เพิ่มประกายความเงางามของเส้นผมด้วยการทำกลอส ทรีตเม้นท์

       สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
               การทำสีถาวรทั้งศีรษะ เพราะจะดูเป็นบล็อกเกินไปทำให้เหมือนคนใส่วิก

      ทำสีเลย

               ผมยาวจะดูสวยผิดหูผิดตา เมื่อทำไฮไลท์แบบมัลติโทนและไลว์ไลท์ผสานเข้าด้วยกัน บอกให้ช่างเลือกสี่เฉดแล้ว ทำให้กลมกลืนกัน ผมคุณจะสวยและดูหรูขึ้น

       หมายเหตุ!

               ทำกลอส ทรีตเม้นท์ทุกครั้งที่เข้าซาลอน เพื่อเล็มผม ผมยาวดูสวยผิดหูผิดตาขึ้นทันทีเมื่อทำไฮไลท์แบบมัลติโทน ที่ผสมกลมกลืนกัน

               อย่าลืมว่าการทำไฮไลท์จะต้องเติมสีทุก ๆ สามเดือน

        I’ve got a ผมที่มีเลเยอร์หลาย ๆ ชั้น

       อะไรที่เหมาะและทำไม

               ไฮไลท์เพิ่มมิติและมูฟเม้นท์ให้ผมที่มีเลเยอร์ และยังทำให้ผมหนาดูดีขึ้น เลือกทำไฮไลท์ด้วยสีที่เข้มกว่าพื้นผม

       สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

               ทำผมสีเดียวทั้งศีรษะ เพราะทำให้เลเยอร์ดูแบนและไม่มีชีวิตชีวา

      ทำสีเลย

               ทำให้ผมเลเยอร์มีชีวิตชีวา ด้วยการทำสีหลาย ๆ โทนเสร็จแล้วให้ช่างเลือกคู่สีที่ควรทำไฮไลท์ให้

       หมายเหตุ!

               ทุกครั้งที่เข้าซาลอน คุณไม่จำเป็นต้องทำไฮไลท์ทุกครั้งไป สามครั้งแรกทำแค่ครึ่งศีรษะก็พอ แล้วค่อยทำทั้งศีรษะครั้งที่สี่

พิธีรับไหว้และพิธีเพิ่มทุน

   การทำพิธีรับไหว้ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่ง เพราะจัดขึ้นเพื่อแสดงความคารวะนบนอบต่อพ่อแม่ ญาติ ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือบุคคลที่คู่บ่าวสาวเคารพรัก ซึ่งเงินที่ได้จาก พิธีรับไหว้ จะถือว่าเป็นเงินทุนให้แก่คู่บ่าวสาว ทั้งนี้ สำหรับการไหว้นั้น จะเรียงตามลำดับอาวุโส

          โดย พิธีการรับไหว้ เมื่อพ่อแม่ (ซึ่งจะเป็นของฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชายก่อนก็ได้) หรือผู้หลักผู้ใหญ่ ไปนั่งคู่กันในที่จัดไว้ คู่บ่าวสาวจะกราบลงพร้อมกันที่หมอนสามครั้ง แต่ถ้าเป็นญาติคนอื่น ๆ คู่บ่าวสาวจะกราบหนึ่งครั้ง โดยไม่ต้องแบมือ แล้วส่งพานดอกไม้ธูปเทียนให้ ท่านจะรับและให้ศีลให้พรอวยพรให้ทั้งคู่ จากนั้นจะหยิบเงินรับไหว้ใส่ในพาน หยิบด้ายมงคลหรือสายสิญจน์เส้นเล็ก ๆ ผูกข้อมือให้คู่บ่าวสาว เพื่อเป็นการแสดงการรับไหว้

          อย่างไรก็ตาม หลังจากทำ พิธีรับไหว้ เสร็จลง บางครอบครัวจะจัดให้มี พิธีเพิ่มเงินทุน ให้แก่คู่บ่าวสาว โดยนำพานใส่ใบเงินใบทองมาวางไว้ นำเงินรับไหว้ไว้ข้างบน ต่อจากนั้นพ่อแม่ญาติพี่น้องของคู่บ่าวสาว ซึ่งมีความประสงค์จะมอบเงินเพิ่มทุนให้แก่ลูกหลานของตัวเอง ก็จะนำเงินมาใส่เพิ่มให้ มากน้อยแล้วแต่ความพอใจ ต่อจากนั้นจึงนำถั่วงา และแป้งประพรม มอบให้แก่คู่บ่าวสาวพร้อมคำอวยพร

          สำหรับสถานที่ในการจัด พิธีรับไหว้ นิยมเน้นความสะดวกของคู่บ่าวสาว คือจัดเก้าอี้ หรือเสื่อไว้ ผู้ใดจะทำพิธีไหว้ก็มานั่งในสถานที่นั้นต่อหน้าคู่บ่าวสาว พอทำพิธีเสร็จแล้วจึงลุกออกไป เพื่อให้ผู้อื่นมาทำพิธีรับไหว้ต่อ
พิธีรับไหว้

ในประเพณีการแต่งงานแบบไทย

วิธีการดูแลมือ และเล็บแบบง่าย ๆ



          ส่วนหนึ่งในร่างกายที่ใครหลายคนมักจะมองข้ามไม่ให้การดูแลก็คือ มือ และ เล็บ ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ หรือการถือของหนัก ๆ แล้วไหนจะยังมีเล็บมือที่คุณสาว ๆ คอยแต่งเติมสีสันลงไปจนลืมดูแลสุขภาพให้กับมันเสียสนิท มีวิธีการดูแลมือและเล็บง่ายๆ ให้ลองนำไปปฏิบัติตามกันดูค่ะ

          เริ่มจากการทำความสะอาดด้วยการใช้แปรงขนนุ่มกับสบู่ถูเบา ๆ โดยเฉพาะบริเวณซอกเล็บ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นทาครีมบำรุงมือและเล็บ นวดประมาณ 3-5 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และการทำงานของต่อมสร้างเล็บ ทำทุกวันหลังอาบน้ำเพื่อการซึมซาบที่ดี แค่นี้ก็จะทำให้คุณมีผิวมือที่เนียนนุ่ม ไม่หยาบกระด้างอีกต่อไป

Healthy Hand & Nail (womanplus)

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

ส่งท้ายหนาวนี้ที่...เชียงราย

วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป เผลอไม่เท่าไหร่ก็ผ่านปีใหม่มาแล้ว คุณได้เริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ ในชีวิตกันบ้างหรือยัง เช่น หาความรู้ใหม่ ๆ เริ่มต้นงานใหม่(เก่า) กับความรู้สึกใหม่ ๆ หรือจะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณรู้สึกว่าชีวิตมีมุมมองที่ดีขึ้น แต่ถ้านึกไม่ออกว่าจะทำอะไรบางทีการได้นั่งคุยกับใครบางคน เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนคติก็ทำให้เราได้เห็นอะไรในมุมมองใหม่ ๆ ได้เช่นกัน
  
          คู่หูพาเที่ยวฉบับนี้จะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายกัน เพื่อเป็นการส่งท้ายหน้าหนาว (ที่ไม่ค่อยหนาวสักเท่าไร) กับจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย พร้อมกับพาคุณผู้อ่านไปรับไออุ่นแรกของตะวันที่ภูชี้ฟ้ากัน

          "เชียงราย" เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจในช่วงหน้าหนาว เนื่องด้วยเชียงรายมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง แต่ก่อนอื่นเราจะขอนำคุณผู้อ่านไปเที่ยวในตัวเมือง เพื่อกราบสักการะ "อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช" แห่งแคว้นลานนา ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงราย เมื่อปี พ.ศ.1805 อนุสาวรีย์ตั้งอยู่ที่ถนนห้าแยกพ่อขุนเม็งรายมหาราช ถนนเชียงราย-แม่จัน (ติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์) ในเขตเทศบาลนครเชียงราย อย่างโดดเด่นเป็นสง่า สามารถมากราบไหว้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน บางท่านอาจมากราบสักการะในช่วงกลางคืนและถือโอกาสปล่อยโคมยี่เป็ง เพื่อเสริมสิริมงคลให้ชีวิตรุ่งโรจน์สว่างไสว ดุจเปลวไฟในโคมยี่เป็งก็ได้

ภูชี้ฟ้า

          ถัดมาไม่ไกลนักจากอนุสาวรีย์ตรงสี่แยกถนนบรรพปราการ เราสามารถมาชม "หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ครบรอบ 72 พรรษา" ที่ออกแบบโดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ใจกลางเมืองเลยก็ว่าได้ ตัวหอเป็นสีทองอร่ามสวยงามตามแบบฉบับของอาจารย์ฯ และเมื่อถึงเวลา 19.00 น., 20.00 น. และ 21.00 น. ของแต่ละวัน จะจัดให้มีการแสดงแสง สี เสียง จากตัวหอฯ โดยมีการเปิดไฟประดับสลับแสงสี พร้อมเปิดเพลงบรรเลงสไตล์ล้านนาและเพลงเชียงรายรำลึก เพื่อให้เขากับบรรยากาศ ซึ่งเป็นโชว์ที่ตระการตาและสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว และผู้ที่มารอคอยชมเป็นอย่างยิ่ง การแสดงจะใช้เวลาประมาณ 10 นาทีต่อรอบ และจัดแสดงเพียง 3 รอบต่อวันเท่านั้น ต้องตรงต่อเวลากันหน่อยเพราะของดีเค้ามีน้อย!

          หลังจากชมการแสดงของหอนาฬิกาฯ เสร็จก็ต่อด้วยการเดินช้อปปิ้งที่ "เชียงรายไนท์บาซ่าร์" ซึ่งตั้งอยู่ถนนพหลโยธิน บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย เป็นที่จำหน่ายของที่ระลึกฝีมือชาวเขาและชาวเชียงราย ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าหลากแบบ ผลิตภัณฑ์พื้นเมือง ของตกแต่งบ้าน ฯลฯ ในราคาย่อมเยา นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว พร้อมชมการแสดงจากศิลปินพื้นบ้าน เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.30 - 23.00 น.

วัดร่องขุ่น
วัดร่องขุ่น
          เป็นวัดที่สร้างและออกแบบโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย สร้างขึ้นด้วยความศรัทธาและแรงมุ่งมั่น ที่จะรังสรรค์งานศิลปะที่งดงามและอ่อนช้อย ผสมผสานระหว่างพระพุทธศาสนากับวัฒนธรรมล้านนาอย่างกลมกลืน ลักษณะเด่นของวัดก็คือ การตกแต่งพระอุโบสถด้วยลวดลายปูนปั้นสีขาว และความแวววาวของกระจกสีเงิน ตามเจตนารมณ์ของอาจารย์ที่อยากให้วัดนี้เหมือนเมืองสวรรค์ เป็นวิมานบนดินที่มนุษย์โลกสามารถสัมผัสได้ ภายในโบสถ์ยังมีภาพจิตกรรมฝาผนังฝีมือของอาจารย์เอง ที่ออกจะดูสวยแปลกตาและร่วมสมัยมาก สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี เปิดให้เข้าชมเวลา 06.30 น.-18.00 น. กรุณาแต่งกายให้สุภาพ

          สถานที่ตั้ง : อยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงราย 13 กิโลเมตร ตรงหลักกิโลเมตรที่ 816 ถนนพหลโยธิน โทรศัพท์ 0-5367-3579

35 ภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์ บันทึก 9 รัชกาล ครั้งแรก

35 ภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์ บันทึก 9 รัชกาล ครั้งแรก (ไทยโพสต์)

          ครั้งแรกในประเทศไทย ที่เหล่าศิลปินได้ตั้งใจสร้างสรรค์งานภาพพิมพ์จำนวน 35 ชิ้น ซึ่งบันทึกเรื่องราวของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ของพระมหากษัตริย์ทั้ง 9 พระองค์ แห่งราชวงศ์จักรี เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณผ่านผลงานศิลปะที่มีคุณค่า นับเป็นหลักฐานเอกสารทางประวัติศาสตร์ของชาติ ซึ่งคนไทยสามารถชื่มชม 35 ภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์ได้ ณ หอศิลป์กรุงไทย อาคารเยาวราช กรุงเทพฯ ที่มีนิทรรศการแสดงผลงานศิลปะภาพพิมพ์ "35 ภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ 9 รัชกาล" จัดโดยภาควิชาภาพพิมพ์ คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จไปทรงเปิดนิทรรศการเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553

          ศ.พิษณุ ศุภนิมิตร ประธานโครงการ 35 ภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ 9 รัชกาล เผยความเป็นมาว่า จากประสบการณ์ในการเดินทางในต่างประเทศ จะมีภาพบันทึกประวัติศาสตร์ของแต่ละชาติ อย่างญี่ปุ่นมีผลงานภาพพิมพ์บันทึกเรื่องราวของพระจักรพรรดิ ภาควิชาภาพพิมพ์ซึ่งเปิดสอนมานานกว่า 40 ปี แต่ยังไม่เคยทำงานใหญ่ ๆ จึงริเริ่มโครงการนี้ขึ้น เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวาระมหามงคลครบรอบพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา มีจิตรกรที่ร่วมทำงาน 23 คน โดยตนเป็นผู้เลือกเรื่องราวที่สำคัญตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 9 มาสร้างผลงาน เหตุการณ์แต่ละภาพผ่านการค้นคว้าข้อมูลจากพงศาวดาร เอกสารหลักฐาน และภาพเก่า โครงการได้งบสนับสนุนจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)

5 ภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์

          "35 ภาพพิมพ์คัดเหตุการณ์เด่น ๆ มาทำงาน ยังไม่มีใครทำมาก่อน เป็นภาพทางประวัติศาสตร์ และศิลปินใช้จินตนาการผสมผสาน เพราะตั้งแต่รัชกาล ที่ 4 ลงไปไม่มีภาพถ่ายหลักฐาน แม้แต่รัชกาลที่ 9 บางภาพไม่สามารถหาภาพจริงได้ ผมทำแบบร่างทั้ง 35 ภาพแล้วให้ศิลปินเลือกภาพเหตุการณ์ ส่วนใหญ่จะเป็นจิตรกร เพราะต้องสร้างภาพเป็นต้นฉบับแล้ว ทางฝ่ายภาพพิมพ์ก็นำภาพทั้งหมดไปเลือกเทคนิคที่เหมาะสม มี 4 เทคนิค คือ แม่พิมพ์แกะไม้ แม่พิมพ์โลหะ แม่พิมพ์ตะแกรงไหม แม่พิมพ์หิน ใช้เวลาทำงานต่าง ๆ จนถึงจัดพิมพ์เป็นภาพพิมพ์ประมาณ 3 ปี และจะถวายภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์ 35 ชิ้น แด่พระเจ้าอยู่หัว ขณะที่ชาวไทยก็ได้ชื่มชม และซาบซึ้งในพระปรีชาสามารถของกษัตริย์ทุกพระองค์ผ่านนิทรรศการ" ประธานโครงการ กล่าว

          นอกจากนิทรรศการจะมีขึ้นที่หอศิลป์กรุงไทย ช่วงวันที่ 21 ธันวาคม 2553 ถึง 5 กุมภาพันธ์ 2554 อาจารย์พิษณุ ศิลปินอาจารย์รั้วศิลปากรให้ข้อมูลด้วยว่า ได้เปิดจำหน่ายภาพพิมพ์ประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ 9 รัชกาล จำนวน 35 ชิ้นด้วย รายได้ส่วนหนึ่งทูลเกล้าฯ ถวายและอีกส่วนหนึ่งเป็นทุนการศึกษาของนักศึกษาภาพพิมพ์ รวมถึงใช้จัดนิทรรศการสัญจรในปี 2554 เปิดโอกาสให้ประชาชนหลายจังหวัดได้ชมผลงาน ประกอบด้วย เชียงใหม่, น่าน, ปัตตานี และมหาสารคาม

          สำหรับภาพพิมพ์ที่ประทับใจ อาจารย์พิษณุ บอกว่า ทั้ง 35 ภาพสะท้อนพระปรีชาสามารถและบุคลิกภาพที่ต่างกันของแต่ละพระองค์ ทุกรัชกาลทรงรับใช้บ้านเมืองอย่างเต็มที่ อย่างภาพที่ 8 ชื่อภาพ "เซอร์จอนห์ เบาว์ริ่ง ราชทูตอังกฤษเข้าเฝ้าฯ รัชกาลที่ 4" ของศิลปินแห่งชาติ ปรีชา เถาทอง ดูแล้วให้บรรยากาศที่มืดมน เป็นยุคล่าอาณานิคม แม้ไทยเสียดินแดน แต่ทรงต้อนรับราชทูตอย่างสมเกียรติ ไม่ตอบโต้ด้วยท่าทีแข็งกร้าว ทำให้ไม่ถูกรุกรานอีก ถือเป็นพระกุศโลบายในการรักษาบ้านเมือง

สวนผึ้ง ราชบุรี เมืองมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา

"สาวกะเหรี่ยงเคียงถิ่นตะนาวศรี ลำภาชีแก่งส้มแมวแนวหินผา ธารน้ำร้อนบ่อคลึงตรึงติดตา น้ำผึ้งป่าหวานซึ้งติดตรึงใจ"...
          คำขวัญของ สวนผึ้ง ราชบุรี อำเภอเล็ก ๆ ที่แฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขา และความงดงามของธรรมชาติ จนทำให้ สวนผึ้ง ราชบุรี กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย อาจเพราะความน่ามองของวิวทิวทัศน์ ความน่ารักน่าชังของ "ฝูงแกะ" ความน่าพักของ "รีสอร์ต" จึงทำให้อำเภอแห่งนี้ ติดอันดับต้น ๆ ของแหล่งท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ก็อยากมาเยือนสักครั้ง วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ สวนผึ้ง ราชบุรี กันอีกสักครั้ง...

          อำเภอสวนผึ้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ จังหวัดราชบุรี ขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ถือเป็นอำเภอสุดท้ายสุดแดนแผ่นดินไทยทางด้านตะวันตก เพราะทิศตะวันตกของ สวนผึ้ง ราชบุรี ติดต่อกับอำเภอมะริด จังหวัดทวาย เขตตะนาวศรี ของสหภาพพม่า พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบสูง เป็นภูเขาสลับกับพื้นที่ราบ ป่าไม้ยังคงอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี

          สวนผึ้ง เดิมเป็นตำบลหนึ่งใน อำเภอจอมบึง เรียกว่า "ตำบลสวนผึ้ง" เป็นตำบลที่มีพื้นที่กว้างขวาง แต่ทุรกันดาร และแวดล้อมไปด้วยภูเขา ป่าไม้ ทำให้การการคมนาคมไม่ค่อยสะดวกสะดวกเท่าที่ควร ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง แต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2526 กระทรวงมหาดไทยได้ยกฐานะขึ้นเป็น "อำเภอสวนผึ้ง"

          สำหรับที่มาของชื่อ "สวนผึ้ง" นั้น เนื่องจากพื้นที่โดยทั่วไปประกอบด้วยป่าไม้ และมีต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า "ต้นผึ้ง" ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ มีสีขาวนวล ไม่มีเปลือกกะเทาะหรือลอกให้เห็น และที่สำคัญคือจะมีผึ้งและมิ้มจำนวนนับมากชอบมาอาศัยทำรัง และหนึ่งต้นก็มีมากกว่า 200 รัง ทำให้ชาวบ้านกะเหรี่ยงมักมาตีรังผึ้ง เพื่อเก็บ "น้ำผึ้ง" ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นน้ำหวานของป่ามายังชีพ โดยเรียกรังผึ้งนี้ว่า "ไหมซ่าเลียง" ขณะที่ชาวไทยเรียกว่า "ต้นชวนผึ้ง" หรือ "ยวนผึ้ง" จึงเป็นที่มาของชื่อ อำเภอสวนผึ้ง ทั้งนี้ ปัจจุบันยังมีน้ำผึ้งแท้จากป่าวางขายกันอยู่ แต่ลดน้อยลงไปมาก

สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง ราชบุรี

          เสน่ห์ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากไปเยือน สวนผึ้ง ราชบุรี นั่นก็คือ แกะ สีขาวขนปุย และ รีสอร์ต สวย ๆ ที่ประดับประดาตกแต่งไปด้วยไอเดียแจ่ม ๆ หลากแบบหลายสไตล์ ให้นักท่องเที่ยวเลือกสรรได้ตามความชอบใจ ซึ่งตั้งเรียงรายราวดอกเห็ด แต่ก็แทรกตัวกลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ในส่วนของราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลายพันบาท แต่ถ้าใครอยากไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่ สวนผึ้ง ราชบุรี ก็มีที่พักแบบโฮมสเตย์ เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีบริการที่พัก อาหาร และนำเที่ยว ในราคาที่ไม่แพงไว้คอยบริการด้วย

ดอยอ่างขาง ชมดอกไม้เมืองหนาว

ประวัติ...ดอยอ่างขาง

          โดยเรื่องกำเนิดของ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง แห่งนี้ เป็นเกร็ดประวัติเล่ากันต่อมาว่า ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จทางเฮลิคอปเตอร์ผ่านยอดดอยแห่งนี้ และทอดพระเนตรลงมาเห็นหลังคาบ้านคนอยู่กันเป็นหมู่บ้าน จึงมีพระดำรัสสั่งให้เครื่องลงจอด เมื่อเสด็จพระราชดำเนินลงมาทอดพระเนตรเห็นทุ่งดอกฝิ่น และหมู่บ้านตรงนั้นก็คือหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอ ซึ่งในสมัยนั้นยังไว้แกละถักเปียยาว แต่งกายสีดำ สะพายดาบ ทำการปลูกฝิ่นแต่ยังยากจน ทั้งยังทำลายทรัพยากรป่าไม้ ต้นน้ำลำธารที่เป็นแหล่งสำคัญต่อระบบนิเวศน์ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนอื่น ๆ ของประเทศได้ พระองค์มีพระราชดำรัสที่จะแปลงทุ่งฝิ่นให้เป็นแปลงเกษตร

          จึงทรงมีพระราชดำริว่าพื้นที่นี้มีภูมิอากาศที่หนาวเย็น มีการปลูกฝิ่นมาก ไม่มีป่าไม้อยู่เลย และสภาพพื้นที่ไม่ลาดชันนัก ประกอบกับพระองค์ทรงทราบว่า ชาวเขาได้เงินจากฝิ่นเท่ากับที่ได้จากการปลูกท้อพื้นเมือง และทรงทราบว่าที่สถานีทดลองไม้ผลเมืองหนาว ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทดลองวิธีติดตา ต่อกิ่งกับท้อฝรั่ง จึงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,500 บาท เพื่อซื้อที่ดินและไร่ในบริเวณ ดอยอ่างขาง ส่วนหนึ่ง

ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง

          จากนั้นจึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้นเป็นโครงการส่วนพระองค์ เมื่อ พ. ศ. 2512 โดยทรงแต่งตั้งให้ หม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี เป็นผู้สนองพระบรมราชโองการในตำแหน่งมูลนิธิโครงการหลวง ใช้เป็นสถานีวิจัยและทดลองปลูกพืชเมืองหนาวชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ผล ผัก ไม้ดอกเมืองหนาว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่เกษตรกรชาวเขา ในการนำพืช เหล่านี้มาเพาะปลูกเป็นอาชีพ ซึ่งต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานนามว่า "สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง"

          "อ่างขางในอดีตวันนั้นสวยมากด้วยดอกฝิ่นและภูมิประเทศ เราได้เห็นต้นท้อ แอ๊ปเปิ้ลป่า และทราบว่าอากาศหนาวเราได้คุยกับผู้ที่ไปตั้งร้านขายของ ซื้อฝิ่นเขาขึ้นมาอีกทางหนึ่ง ห่างจากค่ายทหารจีนโดยที่ชาวเขาส่วนมากอพยพไปที่อื่น อ่างขางจึงมีที่เหลือให้หญ้าคาขึ้นอยู่มาก ด้วยเหตุนี้จึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขางขึ้นเมื่อ 30 ปี มานี้ สถานีเกษตรหลวงอ่างขางได้ทำวิจัยได้" ม.จ. ภีศเดช รัชนี กล่าว

          โดยคำว่า "อ่างขาง" ภาษาเหนือหมายถึง อ่างรูปสี่เหลี่ยมตามลักษณะของดอยอ่างขาง ซึ่งเป็นดอยที่มีรูปร่างของหุบเขา ยาวล้อม รอบประมาณ 5 กิโลเมตร กว้าง 3 กิโลเมตร ตรงกลางของอ่างขางเดิมเป็นภูเขาสูง เช่นเดียวกับบริเวณโดยรอบ แต่เนื่องจากเป็นภูเขาหินปูน เมื่อถูกน้ำฝนชะก็จะค่อย ๆ ละลายเป็นโพรงแล้วยุบตัวลงกลายเป็นแอ่ง มีพื้นที่ราบ ความกว้างไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

เที่ยวใต้...ล่องทะเลอันดามัน ณ สตูล

ทริปนี้เราออกตัวกันที่ "ท่าเทียบเรือปากบารา" จังหวัดสตูล เพื่อนั่งเจ้าทรัพย์อุมมา เรือสปีดโบ๊ทพาหนะยอดฮิต ออกเดินทางไปสัมผัสความงดงามของท้องและอันดามัน โดยปลายทางที่เราจะไปเยือนเป็นอันดับแรกคือ "เกาะตะรุเตา" หรือ "อุทยานแห่งชาติตะรุเตา" อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 8 ของประเทศไทย

          อะ ๆ ก่อนอื่นขอแนะนำไกด์ประจำทริป "หาบี๋" หนุ่มใต้คนเก่ง จากท่าเรือเราใช้เวลาไปชื่นชมความสวยของ เกาะตะรุเตา ประมาณ 1.30 ชั่วโมง เกาะเลืองชื่อลือนามอย่าง ตะรุเตา ก็ปรากฏโฉมให้เห็น เพียงแค่มองไกล ๆ ก็รับรู้ได้ถึงความงดงามที่ซ้อนตัวอยู่กลางท้องทะเล ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ 72 กิโลเมตร

เกาะตะรุเตา


          ทันทีที่เรือเทียบ ท่าเรือพันเตมะละกา สายตาก็ไปเตะกับทิวสนเรียงราย แต่ก่อนที่จะออกไปลัลลาเล่นน้ำทะลใส ๆ สิ่งแรกที่ควรจะทำคือ การไปสักการะ "เจ้าพ่อตะรุเตา" และ "พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองปกป้องรักษาพื้นดินแห่งนี้ จน Unesco ยกให้เป็น มรดกแห่งอาเชียน (Asean Heritage Parks and Reserves)

          บน
เกาะตะรุเตา มีที่เที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อ่าวเมาะและ, อ่าวตะโลวาว, อ่าวตะโละอุดัง, อ่านพันเตมะละกา, ผาโต๊ะบู ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้คือ อ่าวตะโละอุดัง และ อ่าวตะโละวาว สถานที่ที่อดีตเคยเป็นทัณฑสถาน และเป็นนิคมฝึกอาชีพของนักโทษเด็ดขาด, นักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย และนักโทษการเมือง ก่อนจะยกเลิกไปในที่สุด
สำรวจทั่ว เกาะตะรุเตา แล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไป เกาะไข่ เกาะเล็ก ๆ แต่ฮอตฮิตสำหรับคู่รัก เพราะมีหนุ่มสาวหลายคู่ ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเกาะแห่งนี้ เพื่อลอด "ซุ้มประตูหิน" ปรากฎกาณณ์ทางธรรมชาติ ที่ทอดโค้งจากผืนทรายจรดน้ำ ตามความเชื่อที่ปรากฎบนป้ายว่า

          ... ประตูหินโค้ง...ตะรุเตา จุดเพิ่มพูนตำนานรักหนุ่มสาว แดนประเดิม เสริมรักให้ยืนยาว สองเราก้าวสู่ประตู...นิรันดร์ ...

          ทั้งนี้ทั้งนั้น มีเคลัดลับเสริมอยู่เล็ก ๆ น้อย ๆ หากคู่รักหนุ่มสาวจูงมือกันลอดซุ้มประตูหิน แล้ววกกลับมาลอดซุ้มประตูหินเล็ก ๆ ที่อยู่เคียงข้างกัน เพียงเท่านี้ความรักของทั้งคู่ก็จะยืนยาวมั่นคงยิ่งขึ้น (เขาว่ากันแบบนั้นนะ) ส่วนชื่อ เกาะไข่ มีที่มาจากเต่าทะเลมักขึ้นมาวางไข่ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จนทำให้ถูกขนานนามว่า "เกาะไข่"
 เมื่อใดก็ตามที่ใจอยากท่องเที่ยวแบบทริปเล็ก ๆ กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมรแดนสยาม นี่แหละเป็นตัวเลือกที่แสนมหัศจรรย์เสมอ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามแตกต่างหลากหลาย ทั้งกลางวัน และยามค่ำคืน          หนุ่มสาวนักช้อป ก็มีแหล่งให้ช้อปเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นแหล่งฮอตฮิตเดินชิลล์อย่างสวนจตุจักร ที่มีให้เลือกซื้อหากันตั้งแต่เสื้่อผ้า ของกิน ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ฯลฯ แต่หากเป็นคนชอบเที่ยวหลังตะวันลับฟ้า เดินย่ำราตรี ดูแสงสี และไฟสวย ๆ ถนนข้าวสาร เยาวราช ราชดำเนิน สะพานพระพุทธยอดฟ้า สะพานพระราม 8 ฯลฯ ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลไม่เสื่อมคลาย

          หรือใครที่ชอบทำบุญเข้าวัด พระอารามหลวงในกรุงเทพฯ ก็มีให้เลือกไปเยี่ยมไปเยือนมากมาย อาทิเช่น วัดพระแก้ว วัดสระเกศ วัดอรุณฯ วัดระฆัง โลหะปราสาท วัดราชนัดคารามวรวิหาร เรือสำเภา วัดยานนาวา วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ฯลฯ หรือจะเป็น ชุมชนหมู่บ้านญี่ปุ่น ซอยสุขุมวิท 33/1 แหล่งรวมของอร่อยจากแดนอาทิตย์อุทัย, ตลาดสามย่านใหม่ หลังสนามกีฬาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ตลาดน้ำตลิ่งชัน, มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ที่สวยเก๋น่าไปแวะชม และอื่น ๆ อีกมาก

ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ชอบไปที่สุด

เมื่อใดก็ตามที่ใจอยากท่องเที่ยวแบบทริปเล็ก ๆ กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมรแดนสยาม นี่แหละเป็นตัวเลือกที่แสนมหัศจรรย์เสมอ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามแตกต่างหลากหลาย ทั้งกลางวัน และยามค่ำคืน          หนุ่มสาวนักช้อป ก็มีแหล่งให้ช้อปเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นแหล่งฮอตฮิตเดินชิลล์อย่างสวนจตุจักร ที่มีให้เลือกซื้อหากันตั้งแต่เสื้่อผ้า ของกิน ของใช้ ของตกแต่งบ้าน ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ฯลฯ แต่หากเป็นคนชอบเที่ยวหลังตะวันลับฟ้า เดินย่ำราตรี ดูแสงสี และไฟสวย ๆ ถนนข้าวสาร เยาวราช ราชดำเนิน สะพานพระพุทธยอดฟ้า สะพานพระราม 8 ฯลฯ ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลไม่เสื่อมคลาย

          หรือใครที่ชอบทำบุญเข้าวัด พระอารามหลวงในกรุงเทพฯ ก็มีให้เลือกไปเยี่ยมไปเยือนมากมาย อาทิเช่น วัดพระแก้ว วัดสระเกศ วัดอรุณฯ วัดระฆัง โลหะปราสาท วัดราชนัดคารามวรวิหาร เรือสำเภา วัดยานนาวา วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ฯลฯ หรือจะเป็น ชุมชนหมู่บ้านญี่ปุ่น ซอยสุขุมวิท 33/1 แหล่งรวมของอร่อยจากแดนอาทิตย์อุทัย, ตลาดสามย่านใหม่ หลังสนามกีฬาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ตลาดน้ำตลิ่งชัน, มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ที่สวยเก๋น่าไปแวะชม และอื่น ๆ อีกมากมาย

ไปไหว้ พระธาตุแช่แห้ง ต้อนรับปีเถาะ

พระธาตุแช่แห้ง

พระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุแช่แห้ง หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตี๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน บริเวณที่เป็นศูนย์กลางเมืองน่านเดิม หลังจากที่ย้ายมาจากเมืองปัว ซึ่ง พระธาตุแช่แห้ง เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต

          พระธาตุแช่แห้ง เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ สร้างในสมัยเจ้าพระยาการเมือง (เจ้าผู้ครองนครน่านระหว่าง พ.ศ.1869-1902) เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระมหาชินธาตุเจ้า 7 พระองค์ พระพิมพ์เงิน และพระพิมพ์ทอง ที่ได้รับพระราชทานจากพระมหาธรรมราชาลิไท เมื่อครั้งที่เจ้าพระยาการเมืองเสด็จไปช่วยสร้างวัดหลวงอภัย (วัดป่ามะม่วง จังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน) ในปีพ.ศ. 1897

          แต่เดิมตัว พระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่บนเชิงเนินปูด้วยอิฐ ลาดขึ้นไปยังยอดเนิน กว้างประมาณ 20 วา มีบันไดนาคขนาบทั้งสองข้าง องค์พระเจดีย์เป็นแบบล้านนาไทย เป็นเจดีย์ทรงระฆัง รูปแบบของ พระธาตุแช่แห้ง
สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลจากเจดีย์พระธาตุหริภุญไชย โดยรอบองค์บุด้วยทองจังโก (ทองดอกบวบ ทองเหลืองผสมทองแดง) ทางขึ้นสู่องค์พระธาตุเป็นตัวพญานาค หน้าบันเหนือประตูทางเข้าพระวิหารเป็นปูนปั้นลายนาคเกี้ยว ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของศิลปกรรมเมืองน่าน

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

หาดป่าตอง สีสันความบันเทิง ณ ภูเก็ต

หาดป่าตอง

 เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวฮอตฮิตติดอันดับโลก ที่ถูกการันตีมาแล้วหลายรางวัล สำหรับ "ภูเก็ต" เพราะนอกจากคนไทยแล้ว ชาวต่างชาติก็มักแวะเวียนไปสัมผัสความงดงามของ ภูเก็ต อยู่เสมอ จนถูกขนามนามว่าเป็น "ไข่มุกอันดามัน" ซึ่งใครจะเชื่อว่าเกาะขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ ที่อยู่ปลายด้ามขวานไทย จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมดังระดับโลก!


          อาจเพราะหาดทรายขาว น้ำทะเลใส แสงแดดจัดแจ่ม และความสะดวกสบายทั้งด้านการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว การแสดงอันเต็มไปด้วยสีสัน ฯลฯ จึงทำให้ ภูเก็ต ถูกคิดถึงเสมอ และแหล่งท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือน ภูเก็ต ก็คงหนีไม่พ้น แหลมพรหมเทพ หาดป่าตอง หาดกะตะ หาดกะรน หาดกมลา เกาะไม้ท่อน เกาะราชา น้ำตกบางแป น้ำตกกะทู้ อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ ภูเก็ตแฟนตาซี ฯลฯ
โดยเฉพาะ หาดป่าตอง ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 15 กิโลเมตร กลับกลายเป็นหาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของ ภูเก็ต เพราะเป็นหาดที่มีความโค้งมาก และมีหาดทรายงดงามเป็นแนวยาว 3 กิโลเมตร มีน้ำทะเลสีใสแจ๋ว เหมาะแก่การเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยความงดงามของธรรมชาติอันรื่นรมย์


          นอกจากความงดงามของทัศนียภาพแล้ว ความสะดวกสบายก็เป็นแรงดึงดูดชั้นดีเยี่ยม ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันติดอกติดใจ หาดป่าตอง เพราะที่ หาดป่าตอง มีบริเวณที่พัก บริษัทนำเที่ยว ศูนย์การค้า แหล่งบันเทิง กิจกรรมหรือกีฬาทางน้ำ บริการนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน เรียกว่าเป็นชายหาดที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก หาดป่าตอง จึงเป็นหาดที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด

เที่ยวสุขสบาย สไตล์ ภูหินร่องกล้า

 ภูหินร่องกล้า

ไม่ไกลจากทุ่งหมอกและทะเลกะหล่ำแห่ง ภูทับเบิก คือที่ตั้งของ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางอุดมการณ์ของชนชาติไทยที่สำคัญในอดีต
          อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บนรอยต่อสามจังหวัด คือ พื้นที่อำเภอด่านซ้าย ของจังหวัดเลย พื้นที่อำเภอนครไทย ของจังหวัดพิษณุโลก และพื้นที่อำเภอหล่มสัก ของจังหวัดเพชรบูรณ์ มีอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ถือเป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย จึงไม่แปลกที่ ภูหินร่องกล้า
จะประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามอลังการ มากมาย อาทิ..
ลานหินปุ่ม

          ลักษณะสัณฐานคล้ายกับ ลานหินแตก ทว่าความแปลกประหลาดที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นนั้น ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คือ ไม่ได้แตกเป็นร่องลึกแต่นูนโค้งเป็นทรงกลมบ้าง ครึ่งวงกลมบ้าง ไม่ก็รีเรียวบิดเบี้ยวบ้าง คาดว่าเกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหิน มาเป็นระยะเวลานับพันนับหมื่นปีแล้ว ลานหินปุ่มตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร ทำเลที่ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผา ลมพัดเย็นสบาย มองลงไปเป็นผืนป่ากว้างสุดสายตา เหมาะสำหรับการหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง

          โดยเฉพาะบรรยากาศยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ถือว่าเป็นช่วงที่สวยช่วง นึ่งของที่นี่เลยก็ว่าได้ แต่อย่าชมกันจนเพลินหล่ะ เผื่อเวลาไว้สำหรับตอนเดินกลับออกไปยังลานจอดรถด้วย ประมาณ 1 กิโลเมตรเห็นจะได้ และยิ่งในช่วงหน้าหนาว ท้องฟ้าจะมืดไว้มากควรพกไฟฉายติดตัวไว้อุ่นใจแน่นอน

ผาชูธง

          เป็นจุดที่ตั้งอยู่ห่างออกจาก ลานหินปุ่ม อีกเพียง 500 เมตร ลักษณะเป็นเพิงผาสูงชัน สามารถมองทิวทัศน์บริเวณโดยรอบได้เกือบ 360 องศา เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง ที่เหมาะสำหรับการมานั่งรอชมบรรยากาศอาทิตย์ลับขอบฟ้า (แต่ควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากมีพื้นที่แคบ) ในอดีตบริเวณนี้เคยเป็นสถานที่ที่กลุ่ม ผกค. ขึ้นไปชูธงแดงรูปค้อนเคียวทุกครั้งที่ทำการรบชนะฝ่ายรัฐบาล ปัจจุบันทางอุทยานฯ ได้นำธงชาติไทยขึ้นไปปักปันไว้แทน

          นอกจากนี้ ภายในบริเวณอุทยานฯ ยังประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์ การสู้รบ, โรงเรียนการเมืองการทหาร, กังหันน้ำ, สำนักอำนาจรัฐ, โรงพยาบาลรัฐ, ลานอเนกประสงค์, สุสาน ทปท., ที่หลบภัยทางอากาศ และหมู่บ้านมวลชน เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาการสู้รบ และแนวคิดทางอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน ระหว่างคนไทยด้วยกันเองในอดีต

          ในส่วนของที่พักและร้านอาหาร ทางอุทยานฯ ได้ทำการก่อสร้างอาคารบ้านพักและร้านอาหารไว้อย่างสวยงาม ภายใต้ร่มเงาของป่าสนสองใบและสามใบ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อขอจองบ้านพักได้โดยตรงกับสำนักงานอุทยานฯ และทางเว็บไซต์

          ภูหินร่องกล้า ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีการจัดการ การท่องเที่ยวได้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ซึ่งนั่นน่าจะทำให้ทริปการเดินทางครั้งหน้า ของชาวคู่หูเดินทางทุกท่าน จบลงได้อย่างสวยงามและน่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง




 

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

แนะนำสมาชิกใหม่


น้องใบพลู เป็นสมาชิกที่มาอยู่ใหม่ สายพันธุ์ชิวาวา สีขาว หูสีน้ำตาลทั้ง 2 ข้าง หน้าตาแอ๊ปแป๊ว กินทุกอย่างที่ยื่นให้ใบพลู ชอบกัดสิ่งของโดยเฉพาะรองเท้า ถุงเท้า เวลาถูกล่ามโซ่จะส่งเสียงร้อง

วิธีการป้อนยาน้องหมา

การป้อนยาน้องหมาไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป มีข้อแนะนำสำหรับเจ้าของที่ต้องจำเป็นป้อนยาน้องหมา ส่วนใหญ่ยาน้องหมาจะเป็นยาเม็ด การป้อนยาเจ้าของควรใช้สวมถุงมือเพราะว่าจะทำให้ไม่สัมผัสกับน้ำลายของน้องหมาโดยตรง

การขับรถที่ประหยัดน้ำมันที่สุด

การขับรถนอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเรื่องการประหยัดน้ำมันด้วย มีหลายวิธีในการประหยัดน้ำมัน อย่างง่าย ๆ คือ ตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง เครื่องยนต์ พยายามอย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้เกิน 5 นาที

สวัสดีปีใหม่ 2554

.... สวัสดีปีใหม่ 2554 ขอให้โชคดีทุก ๆ ท่าน
ขอให้สมดั่งใจปรารถนาทุกประการ