นางสาวบุหงา เสมจิตร์

นางสาวบุหงา   เสมจิตร์
นางสาวบุหงา เสมจิตร์ เลขที่ 18 หมู่ที่ 7 ป.บัณฑิตรุ่นที่ 13

สุขสันต์วันวาเลนไทน์

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นวัตกรรมกลยุทธ์

“นวัตกรรม” กลยุทธ์หลักเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางธุรกิจ
                                                 Image 


หลายองค์กรยังมีการวางกลยุทธ์และแผนงานรายปี บริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบบดั้งเดิมนี้จึงมักประสบปัญหาขาดแนวคิดริเริ่มใหม่ๆ ที่จะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจเกิดผลกำไรมากขึ้น ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบันต่างให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี เป็นกลยุทธ์หลักทางธุรกิจขององค์กรเพื่อกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ
  องค์กรหลายแห่งยังคงมีแนวทางวางกลยุทธ์ทางธุรกิจแบบเก่าอยู่ ซึ่งรวมไปถึงการสร้างฐานข้อมูลของตลาด เพื่อนำมาวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า ส่วนแบ่งของตลาด และคู่แข่ง ในขณะที่มองเทคโนโลยี และกระบวนการเป็นเพียงช่องทางในการทำธุรกรรมอันเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ที่ได้วางไว้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีจึงกลายเป็นจุดบอดของธุรกิจที่กำลังแผ่วงกว้างมากขึ้นในปัจจุบัน

นวัตกรรมสร้างโอกาสทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง นวัตกรรมแตกต่างจากการเติบโตโดยทั่วไปคือคู่แข่งไม่สามารถเลียนแบบได้ ดังนั้นนวัตกรรมจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจขยายตัวและเติบโตได้อย่างมั่นคงได้มากกว่าการนำเสนอสินค้าและบริการแบบเดิมๆ ในรูปแบบที่ต่างออกไป

ทำไมการเติบโตจึงสำคัญนัก? IBM Institute of Business Value ได้จัดทำรายงานที่มีชื่อว่า The Growth Triathlon พบว่า อัตราการเติบโตของผลกำไรขององค์กรที่มีนวตกรรมมีโอกาสที่เพิ่มมูลค่าหุ้นได้มากกว่าสองเท่า รายงานนี้เป็นรายงานการศึกษาจาก Standard and Poor’s Global 1200 ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา และเป็นรายงานที่ประกอบไปด้วยดัชนีจากบริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป

การเติบโตโดยใช้นวัตกรรมคือการหาช่องทางที่จะนำเสนอคุณค่าใหม่ๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าและตลาดที่มีอยู่เดิม หรือสร้างตลาดใหม่ การนำนวัตกรรมมาใช้จะช่วยเร่งให้ตามความต้องการของตลาดได้ทันและลดความเสี่ยงในการเกิดความล้าหลัง และยังช่วยให้คาดการณ์สถานการณ์ต่างๆ และวางแผนในการแข่งขันกับคู่แข่ง

นวัตกรรมจะช่วยให้ธุรกิจตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของตลาด และความซับซ้อนของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นที่ไม่สามารถจัดการได้ด้วยแผนงานแบบเดิม ตัวอย่างที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือบริษัท โพรเกรสซิฟซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐอเมริกา โพรเกรสซิฟได้สร้างนวัตกรรมมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้บริษัทมีผลกำไรดีและเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ในปี 2546 รายได้สุทธิของบริษัทโพรเกรสซิฟเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ถึง 88% ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา มูลค่าหุ้นบริษัท โพรเกรสซิฟก็เป็นที่น่าพอใจทั้งที่วัดจากดัชนีหุ้นดาวน์โจนส์ ดัชนีประกันภัย และ S&P 500

นวัตกรรมต่างๆ ที่บริษัทโพรเกรสซิฟได้สร้างขึ้นสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่นในปี 2540 บริษัทได้นำเสนอช่องทางให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อประกันรถยนต์ทางช่องทางการขายออนไลน์ได้แบบเรียลไทม์เป็นครั้งแรก และในปี 2544 บริษัทได้บุกเบิกอุตสาหกรรมการประกันภัยรถยนต์ด้วยการสร้างระบบจ่ายเบี้ยประกันแบบไร้สายขึ้นเป็นครั้งแรก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น